ความเป็นมาของกองอาสารักษาดินแดน
สมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้มีแนวคิดในการจัดตั้งหน่วยพลเรือนอาสา โดยได้ออกพระราชบัญญัติกำหนดหน้าที่คนไทยในเวลารบ พ.ศ. ๒๔๘๑ และพระราชบัญญัติให้อำนาจในการเตรียมการป้องกันประเทศ พ.ศ. ๒๔๘๔ เพื่อให้การฝึกอบรมคนไทยให้รู้จักหน้าที่ในการป้องกันรักษาประเทศชาติในยามศึกสงคราม โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดำเนินการต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. ๒๔๙๗ ในวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๗ เป็นผลให้เกิดกิจการด้านพลเรือนอาสา มีรูปแบบและระบบการจัดการที่ชัดเจนมากขึ้น จึงถือเอาวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ เป็นวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน
พัฒนาการของกองอาสารักษาดินแดน
สามารถแบ่งได้เป็น ๓ ระยะ ได้แก่๑. ระยะก่อน พ.ศ. ๒๔๕๔
สมัยโบราณเมื่อเกิดภาวะสงคราม จะมีราษฎรที่ไม่ใช่ทหารรวมตัวกันต่อสู้กับข้าศึกเพื่อรักษาแผ่นดิน อาทิ
๑.๑ สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ศึกบางระจัน ชาวบ้านบางระจันที่ไม่ใช่ทหาร
พยายามต่อสู้กับพม่าจนสิ้นกำลัง ประมาณ พ.ศ. ๒๓๐๘-๒๓๐๙
๑.๒ สมัยการสู้รบที่เมืองถลาง คุณหญิงจันและนางมุก (ท้าวเทพกษัตรี และท้าวศรีสุนทร)
๑.๓ สมัยกู้อิสรภาพเมืองนครราชสีมา โดยการนำของคุณหญิงโม (ท้าวสุรนารี)
๑.๔ สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนากองเสือป่าขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๔๕๔ เป็นกองพลอาสาสมัครเพื่ออบรมข้าราชการและประชาชนให้รู้จักรักชาติ รู้จักหน้าที่ในการป้องกันรักษาประเทศชาติ
๒. ระยะตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๕๔ - ๒๔๙๗
มีความพยายามที่จัดตั้งหน่วยพลเรือนอาสาขึ้นให้เป็นระบบ ทั้งในยามปกติและสงคราม มีการนำแนวคิดจากต่างประเทศมาใช้หลังจากมีการจัดตั้งกองเสือป่าขึ้น สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายก รัฐมนตรี ได้มีพระราชบัญญัติกำหนดหน้าที่คนไทยในเวลารบ พ.ศ. ๒๔๘๑ และพระราชบัญญัติให้อำนาจในการเตรียมการป้องกันประเทศ พ.ศ. ๒๔๘๔ ขึ้น เพื่อฝึกอบรมคนไทยให้รู้จักหน้าที่ในการที่จะป้องกันรักษาประเทศชาติในเวลาสงคราม โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าหน้าที่ดำเนินการ
๓. ระยะตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๗ - ปัจจุบัน
มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. ๒๔๙๗ เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๗ ทำให้การดำเนินการด้านพลเรือนอาสา มีรูปแบบและระบบที่ชัดเจน ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาตามลำดับจนถึงปัจจุบัน
การจัดหน่วยและการบังคับบัญชา
กองอาสารักษาดินแดน แบ่งการจัดหน่วยออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคส่วนกลาง ได้แก่
กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้บัญชาการ
ส่วนภูมิภาค ได้แก่
กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้บังคับการ และมีนายอำเภอ เป็นผู้บังคับกองร้อย
สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน
สมาชิก อส. มี ๓ ประเภท คือ๑. ประเภทสำรอง
คือ สมาชิกที่ยังไม่ได้รับการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่กำหนด
๒. ประเภทประจำกอง
คือ สมาชิกที่ได้รับการฝึกอบรมตามหลักสูตร และบรรจุอยู่ในอัตรากำลัง
๓. ประเภทกองหนุน
คือ สมาชิกที่ได้ปลดออกจากประจำกอง
ชั้นยศ
ชั้นยศของอาสารักษาดินแดน เป็นชั้นยศที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ แบ่งออกเป็นชั้นยศของผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน และชั้นยศของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนชั้นยศของผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ ( ชั้นสัญญาบัตร )
ชั้นยศของผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน แบ่งออกเป็น ๗ ชั้นยศ ได้แก่
๑. นายกองใหญ่
๒. นายกองเอก
๓. นายกองโท
๔. นายกองตรี
๕. นายหมวดเอก
๖. นายหมวดโท
๗. นายหมวดตรี
ชั้นยศของสมาชิก ( ชั้นประทวน )
ชั้นยศของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน แบ่งออกเป็น ๔ ชั้นยศ ได้แก่
๑. นายหมู่ใหญ่
๒. นายหมู่เอก
๓. นายหมู่โท
๔. นายหมู่ตรี
สำหรับสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่ไม่มียศ
ได้กำหนดชั้นยศไว้ ๔ ชั้นยศ ได้แก่
๑. สมาชิกเอก
๒. สมาชิกโท
๓. สมาชิกตรี
๔. สมาชิก
บทบาทหน้าที่
พระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้กำหนดบทบาทภารกิจของสมาชิก กองอาสารักษาดินแดน ไว้ ๖ ประการ คือ๑. บรรเทาภัยที่เกิดจากธรรมชาติและการกระทำของข้าศึก
๒. ทำหน้าที่ตำรวจรักษาความสงบภายในท้องที่ร่วมกับพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ
๓. รักษาสถานที่สำคัญและ การคมนาคม
๔. ป้องกันการจารกรรม สดับตรับฟังและรายงานข่าว
๕. ทำความช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่ ฝ่ายทหารตามที่ทหารต้องการและตัดทอนกำลังข้าศึก
๖. เป็นกำลังสำรองส่วนหนึ่งที่พร้อมจะเพิ่มเติมและสนับสนุนกำลังทหารได้เมื่อจำเป็น ภารกิจในปัจจุบันที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย นอกจากนั้นแล้ว สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ยังมีบทบาทหน้าที่ในด้านต่างๆ อีกมากมาย อาทิเช่น
๖.๑ ด้านการบริการประชาชน
๖.๒ การรักษาความสงบเรียบร้อย
๖.๓ การป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด
๖.๔ การจัดระเบียบสังคม
๖.๕ การป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
๖.๖ การส่งเสริมการท่องเที่ยว
เป็นต้น